วิธีการทำ SEO ทำยังไงให้เว็บไซต์ ติดอันดับ Google [เทรนด์ 2024]
วิธีการทำ SEO ทำยังไงให้เว็บไซต์ ติดอันดับ Google [เทรนด์ 2024]

วิธีการทำ SEO ทำยังไงให้เว็บไซต์ ติดอันดับ Google [เทรนด์ 2024]

SEO หรือ ชื่อเต็ม Search Engine Optimize คือ การจัดอันดับผลการค้นหาของเว็บไซต์บน Google ว่าเว็บไซต์ใครจะได้อันดับที่ดี เช่น อันดับ Top 1 – 5 หากเว็บไซต์คุณมีประสิทธิภาพ จะทำให้การจัดอันดับดีซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกแบบ และการเขียนเนื้อหาบนเว็บไซต์ หากเว็บไซต์คุณติดอันดับบน Google จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีผู้เข้าชมมากขึ้นทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้าเว็บไซต์คุณ หรือ ซื้อสินค้า เป็นอันดับต้นๆ ทำให้เว็บไซต์หรือธุรกิจคุณเติบโตมากขึ้นไปด้วย ตอนนี้ใกล้จะปี 2024/2567 แล้วเรามีอัปเดตเนื้อหาการทำ SEO ล่าสุดกันครับ

สารบัญเนื้อหา

เทรนด์ SEO ของปี SEO 2024 มีอะไรบ้าง

ในปี 2024 โลกเรามีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น AI หรือ Artificial intelligence ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญกับโลกเราเป็นอย่างมาก บริษัทใหญ่ๆ ได้ทำการออก AI ขึ้นมาแข่งกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT และ Google Bard ที่เราคุ้นเคยกันดี หรือ AI ที่ใช้สร้างรูปภาพ เช่น Midjourney หรือ Bing Image Creator และล่าสุด Google ได้เปิดตัว วันที่ 7 ธันวาคม Google ได้เปิดตัวโมเดลประมวลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) ในระบบ Generative AI ที่ชื่อว่า Gemini จะเห็นได้ว่า Google ให้ความสำคัญกับ AI เป็นอย่างมากและ เทรนด์ SEO ที่มาแรงมากในปี 2024 มีดังนี้

1. การทำ SEO กับ AI

การใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือ (AI) ในการทำ Search Engine Optimization (SEO) เป็นแนวทางที่กำลังเป็นที่นิยมช่วยให้ผู้ทำ SEO สามารถเขียน Content ให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปช่วยเขียน เนื้อหาคือ Content ได้ง่ายขึ้น ในจุดนี้ทำใน AI มีบทบาทในการทำ SEO มากขึ้นไปด้วย

  1. การวิเคราะห์ข้อมูล: การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และดึงใจความสำคัญของข้อมูลมาช่วยในการวิเคราะห์การค้นหาของผู้ใช้เช่น แนวโน้มการใช้งาน, และพฤติกรรมการใช้งาน เป็นต้น
  2. การช่วยจัดทำเนื้อหา (Content) : เป็นการใช้ AI เพื่อช่วยในการเขียนเนื้อหาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคำค้นหา และเพื่อใช้เป็นแนวการเรียนรู้ในการทำเนื้อหาที่ดีขึ้นและยังช่วยคิดโครงร่างเนื้อหาให้เราได้ด้วย
  3. Chatbots และ Virtual Assistants: การใช้ Chatbots และ Virtual Assistants เป็นสิ่งที่บริษัทส่วนมากเริ่มนำมาใช้เป็นผู้ช่วยในการช่วยตอบคำถามของผู้ใช้บนเว็บไซต์ หรือนำมาเป็น Report เพื่อช่วยหาคำที่ผู้ใช้ต้องการถาม หรือต้องการค้นหา สามารถนำมาช่วยในการทำ SEO ได้นั่นเอง

การใช้ AI ในการทำ SEO ช่วยให้ผู้ทำ SEO มีคุณภาพที่ดีขึ้นและสามารถทำเนื้อหาหรือ Content บทความต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

และในปี 2024 นี้ Google จะเปิดตัว ฟีเจอร์ AI  Search Generative Experience (SGE) ที่เป็นการใช้ AI ในการช่วยค้นหาอีกด้วย

Search Generative Experience (SGE) คือ อะไร

ระบบที่ช่วยค้นหาด้วยเทคโนโลยี Generative AI ซึ่งทาง Google จะนำมาใช้ใน Search Engine ปกติเป็นการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ต่อผู้ใช้ ในการค้นหาข้อมูลบน Google แบบเดิมๆ พูดง่ายๆ คือ Google จะรวมรวมสรุปเนื้อหาหรือประเด็นที่จำคัญขึ้นมาแสดงเลย ทำให้ผู้ค้นหาไม่จำเป็นต้องกดเข้าไปดูเนื้อหาในเว็บไซต์เหมือนเดิมๆ อีกต่อไป ถ้าเกิดขึ้นจริงคงจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต็นสุดๆ และต้องปรับเว็บไซต์ของเราให้รองรับกับการทำงานนี้อีกด้วย โดยทาง Google ที่มีแพลนจะเปิดให้ทุกคนใช้งานกันเร็วๆนี้

2. Local กับการทำ SEO ในปี 2024

Local SEO อีกหนึ่งกลยุทธ์การทำตลาดที่เป็นที่นิยมอยู่มากในตอนนี้ (Local Search Engine Optimization) คือ การทำ SEO เฉพาะเจาะจงสำหรับธุรกิจท้องถิ่น มุ่งเน้นไปที่การทำให้ธุรกิจท้องถิ่นปรากฏในผลการค้นหาของ Google คำค้นหาควรเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนั้น ๆ ในพื้นที่ที่ระบุ

ประโยชน์ของการทำ Local SEO มีดังนี้

  • ช่วยให้ลูกค้าในท้องถิ่นสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ได้มากขึ้น
  • ช่วยให้ธุรกิจของเราสามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ได้
  • ช่วยให้ธุรกิจหรือร้านค้าของเราสามารถเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้มากยิ่งขึ้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อ Local SEO มีดังนี้

  • ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา เนื้อหาบนเว็บไซต์ของธุรกิจควรมีความเกี่ยวข้องและตรงกับคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนั้น ๆ
  • การมีอยู่ของข้อมูลท้องถิ่น ข้อมูลท้องถิ่น เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และแผนที่ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ Local SEO
  • คุณภาพของลิงก์กลับ ลิงก์กลับจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูง จะช่วยเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหา

แนวทางการทำ Local SEO มีดังนี้

  • สร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ เว็บไซต์ควรมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจ มีการออกแบบที่ใช้งานง่าย และโหลดได้รวดเร็ว
  • เพิ่มข้อมูลท้องถิ่น เพิ่มข้อมูลท้องถิ่น เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และแผนที่ บนเว็บไซต์และโปรไฟล์ธุรกิจบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ
  • สร้างลิงก์กลับ (Backlink) สร้าง Backlink ที่มีคุณภาพสูงไปยังเว็บไซต์ของคุณ

ตัวอย่าง Local SEO ของการทำ

  • ร้านอาหารไทยในกรุงเทพฯ ต้องการเพิ่มยอดขาย การทำ Local SEO จะช่วยให้ร้านอาหารไทยสามารถ แสดงผลการค้นหา เช่น “ร้านอาหารไทย กรุงเทพ” “ร้านอาหารไทยใกล้ฉัน” “ร้านอาหารไทยราคาไม่แพง”
  • ร้านขายอุปกรณ์กีฬาในเชียงใหม่ ต้องการขยายฐานลูกค้า การทำ Local SEO จะช่วยให้ร้านขายอุปกรณ์กีฬาสามารถแสดงในผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหา เช่น “ร้านขายอุปกรณ์กีฬา เชียงใหม่” “อุปกรณ์กีฬา เชียงใหม่” “ร้านขายอุปกรณ์กีฬาใกล้ฉัน”

3. Answer Engine Optimization (AEO) คือ อะไร

AEO (Answer Engine Optimization) คือ เทคนิคการปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับ “เครื่องมือตอบคำ” (Answer Engine) ซึ่งเป็นระบบประมวลผลภาษาแบบ (NLP) ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

แทนที่จะมุ่งเป้าไปที่การขึ้นอันดับในผลการค้นหาแบบดั้งเดิม (SERP) AEO จะเน้นไปที่การทำให้เนื้อหาในรูปของคำตอบโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเขียนบทความเกี่ยวกับสูตรอาหารไทย แนวทาง AEO ก็คือการทำให้เว็บไซต์ของคุณ แสดงขึ้นมาโดยที่ไม่ต้องค้นหาจาก Keyword ตรงๆ เช่นค้นหาว่า “สูตรผัดไทย” หรือ “วิธีทำแกงเขียวหวาน” เว็บไซต์คุณจะสามารถติดอันดับขึ้นมาได้

ทำไม AEO จึงสำคัญต่อ SEO?

  • ตอบสนองพฤติกรรมผู้ใช้ยุคใหม่: ยุคนี้ผู้คนนิยมค้นหาข้อมูลแบบรวดเร็วและเฉพาะเจาะจง AEO 0ะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • เพิ่มเว็บไซต์จำนวนผู้เข้าเว็บไซต์: เมื่อเว็บไซต์คุณสามารถติดอันดับการค้นหาได้กว้างขึ้น ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะคลิกเข้าเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
  • เสริมสร้างแบรนด์: การเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือในการค้นหา ช่วยทำให้สร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าใหม่ได้อีกด้วย

เทคนิควิธีการทำ AEO

  • วิเคราะห์คำค้นหา: ศึกษาคำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณและเลือกใช้คำนั้นมาเขียนเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณ
  • สร้างเนื้อหาแบบ Q&A: คุณควรมี Section เกี่ยวกับคำถามที่บ่อยเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
  • ทำการตั้งค่า Schema ให้ตรง กับเนื้อหา : ใช้ Schema Markup เพื่อช่วยให้ Google Bot เข้าใจว่าเนื้อหาของคุณเกี่ยวกับอะไร
  • เชื่อมโยงเนื้อหา Internal Link ในเว็บไซต์ของคุณ : เชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้ Google สามารถค้นหาผลการค้นที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น

Voice Search หรือ การค้นหาด้วยเสียง เป็นรูปแบบการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตด้วยเสียงพูดแทนการพิมพ์คำค้นหาทางช่องค้นหาตามปกติ เทคโนโลยี Voice Search เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1952 แต่เพิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เทคโนโลยีการจดจำเสียงพูด (Speech Recognition) มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอุปกรณ์ที่ใช้ Voice Search ก็มีราคาถูกลงและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ในปัจจุบันนี้มีการใช้งาน Voice Search กับมากขึ้น ทำให้เราไม่ควรที่จะละเลยในการเขียนเนื้อหา Content ให้รองรับการใช้งานสำหรับ Voice Search

ตัวอย่างเทคนิคการทำเนื้อหา SEO เพื่อรองรับการค้นหาด้วยเสียง Voice Search

  • การใช้คำค้นหาที่ยาวขึ้นและซับซ้อนขึ้น เช่น “วิธีทำอาหารไทย” แทน “อาหารไทย”
  • การใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ใกล้เคียง เช่น “ร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ฉัน”
  • การใช้คำค้นหาที่เป็นธรรมชาติและเหมือนภาษาพูด เช่น “บอกฉันวิธีทำอาหารไทย”
  • การใช้คำค้นหาที่เป็นคำถาม เช่น “วิธีทำอาหารไทย”
  • การใช้คำค้นหาที่เป็นคำสั่ง เช่น “บอกฉันวิธีทำอาหารไทย”

ทำยังไงให้เว็บไซต์ ติดอันดับ Google

ก่อนที่เราจะไปลงเนื้อหาเกี่ยวกับว่าทำยังไงให้เว็บไซต์ติด Google เราต้องมาทราบถึงสิ่งสำคัญของการทำ SEO ซะก่อนว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง SEO Structure

1. Website เว็บไซต์ที่ดีโครงสร้างถูกต้องตามหลัก SEO
2. Content เนื้อหาที่ดีเขียนถูกต้องตามหลัก SEO
3. Keyword คำที่เราต้องการให้ค้นหาแล้วเจอเว็บไซต์เรา
4. Backlink เว็บไซต์ที่อ้างอิงถึงเว็บไซต์ของเราทำให้เว็บไซต์เราดูน่าเชื่อถือ

เว็บไซต์ที่ดีถูกต้องตาม SEO (SEO Friendly)

ไม่ใช่ว่าคุณทำเว็บไซต์และเว็บไซต์ของคุณจะติด SEO เสมอไปเว็บไซต์ที่ดีจะต้องถูกต้องทำหลัก SEO Structure มีดังนี้

SEO Structure ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

  1. H1 (Heading 1) คือ คีย์เวิร์ดที่ใช้สำหรับชื่อของบทความหรือสื่อถืง Keywords ที่คุณต้องการให้ติดอันดับ และต้องมี H1 แค่จุดเดียวเท่านั้นในเว็บไซต์ 1 หน้า
  2. H2 (Heading 2) คือ คีย์เวิร์ดที่ใช้สำหรับหัวข้อรองใน Keyword นั้นเช่น Keywords ของคุณคือ สิว ดังนั้น H2 ของคุณอาจจะเป็นคำว่า สิวอุดตัน, สิวเกิดจากอะไร เป็นต้น
  3. H3 (Heading 3) คือ คีย์เวิร์ดที่ใช้สำหรับการอธิบายเสริมจาก หัวข้อรอง หรือ H2 เช่นหัวข้อรองของคุณคือ สิวเกิดจากอะไร H3 ของคุณควรจะเป็น สาเหตุของการเกิดสิว
  4. H4-H6 (Heading 4-6) คือ คีย์เวิร์ดหัวข้อย่อยรองลงมาจาก H1-H3 ส่วนมากจะไม่ค่อยนิยมใช้กัน
  5. P (Paragraph) คือ พูดง่ายคือคำอธิบาย หรือ คำขยายจาก หัวข้อหลัก เช่น SEO คืออะไร เราก็ต้องอธิบายว่า SEO เป็นการที่จัดอันดับเว็บไซต์บน Google เป็นต้น

Content เนื้อหาที่ดีเป็นยังไง?

เนื้อหา Content ที่ดีนั้นต้องเขียนออกมาให้เข้าใจง่ายและไม่เป็นคำที่เน้น Keyword มากเกินไปควรเขียนออกมาให้เป็นธรรมชาติที่สุด และต้องมีคำขั้นต่ำ 300 คำขึ้นไป หรือยิ่งยาวยิงดี Google ชอบ ห้ามเขียนบทความหรือเนื้อหาที่มีเนื้อหาสั้นเกินไปและอย่าไป Copy เนื้อหาคนอื่นมาจะถูก Google มองว่าเป็น Duplicate Content บทความที่เขียนควรเป็นบทความที่สดใหม่อยู่เสมอจะดีที่สุด ควรใช้ภาพประกอบในบทความและอย่าลืมใส่ Alt Text ทุกภาพ

เว็บไซต์เราควรใช้ Keyword แบบไหน?

การทำ SEO สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ Keyword ถ้าเราเลือก Keyword ผิดหรือใช้ Keyword ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บเราจะทำให้การทำอันดับเป็นไปได้ยากและเสียเวลาหากเราเลือกใช้ Keywords ผิด มาดูกันว่า Keyword ที่ดีมีแบบไหนบ้าง

1. Keyword ควรใช้คำที่มีคนค้นหา

เราควรใช้คำที่คนทั่วไปคิดเช่นเราต้องการจะหาโรงแรม Keyword ก็ควรจะเป็นสิ่งที่อธิบายให้ครอบคลุมอย่างสะกดผิด เช่น โรงแรม กรุงเทพ ราคา 1,000 บาท

2. Keyword ต้องสอดคล้องกับเว็บไซต์หรือธุรกิจของเรา

อย่าไปใช้ Keyword ที่ไม่เกี่ยวกับเรา เช่น เว็บไซต์เรามีบริการ รับทำเว็บไซต์ WordPress แต่ดันไปใช้ Keyword หลักว่า ทำเว็บ WordPress ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นในแนวสอนการใช้งาน WordPress หรือทำ WordPress ด้วยตนเอง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับบริการของเรา

3. ต้องเป็น Keyword ที่ขายได้ (High Commercial Intent)

ให้นึกว่าเราจะซื้อของหรือทำการจองสักอย่างนึงเราจะพิมพ์ค้นหาว่าอะไร เช่น

  • รับติดฟิล์มกระจกบ้าน
  • รับสอนพิเศษ กรุงเทพ
  • พรีออเดอร์กันดั้ม
  • ขายบัตรคอนเสิร์ต taylor swift
  • ที่พักหัวหิน

4. Keyword ต้องมีคนค้นหาเยอะ

เราจะรู้ได้ยังไงว่า Keyword ไหนมีค้นหาเยอะหรือไม่ ทางเราขอแนะนำ Tools ที่ใช้ง่ายและแม่นยำที่สุดคือ เครื่องมือ Keyword Planner ของ Google Ads

วิธีการงานคือให้เข้าไปที่ https://ads.google.com/ ทำการใช้บัญชีของ Google App หรือ Gmail ในการเข้าใช้งาน
และไปที่ Menu Tools > Planning > High Commercial Intent > Keyword Planner

Keyword Planner

ขั้นตอนที่ 1

จากนั้นให้คลิกที่ Discover new keywords และพิมพ์ Keyword ที่เราต้องการค้นหาลงไปตามภาพด้านล่าง

Keyword Planner Step 2

ขั้นตอนที่ 2

จากการค้นหาจะเห็นได้ว่า Keyword คำว่า ที่พักหัวหิน มีคนค้นหาถึง 10,000 – 100,000 ครั้งต่อเดือน ส่วน อีกคำ บ้านพักติดทะเลหัวหิน ราคาถูก มีคนค้นหาแค่เพียง 100 – 1,000 ครั้งต่อเดือน ซึ่งในที่นี้เราควรใช้คำที่มีคนค้นหาเยอะเป็นหลักในการเลือกใช้งาน Keyword ของเรา

Backlink ที่ดีควรเป็นยังไง?

Backlink ที่ดีควรเป็น Backlink ที่เกิดจากธรรมชาติ ไม่ใช่การ Paid Backlink ถ้า Google ตรวจเจออาจทำให้เว็บไซต์ของคุณอันดับตกไปเลยแล้วะเราจะรู้ได้ยังไงว่า Backlink ที่เราใช้นั้นจะมีคุณภาพไหม

Backlink ประเภท Do Follow

Backlink ที่จะช่วยให้เว็บไซต์เราติดอันดับ และสำคัญที่สุดคือแบบ Do Follow และ Do Follow มันก็คือเหมือนมีคนโหวตให้เว็บไซต์เรา หากมี Backlink ที่เป็นการ Do Follow ทาง Google จะให้คะแนน Backlink แบบนี้มากกว่า

Backlink ประเภท No Follow

ส่วน Backlink และ No Follow จะเหมือนเป็นการอ้างอิงถึงเว็บไซต์เรา แต่ทาง Google จะไม่นับว่าเป็นการโหวตให้ ถึงอย่างใดนั้น Backlink ประเภทนี้ก็คือว่าสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเกินมีคนคลิกลิงค์เรา และทำให้เกิดการใช้งานเว็บไซต์เราจริงๆ จำนวนมากๆ Google ก็ให้คะแนนส่วนนี้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น Facebook Group, Pantip เว็บบอร์ด เป็นต้น

Backlink ที่มีคุณภาพ Trust Flow หรือ Citation flow สูง

Trust Flow หรือ TF และ Citation flow หรือ CF  คือคะแนนว่าน่าเชื่อถือของเว็บนี้ หากมี Backlink ที่มีค่า TF,CF สูงจะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์เรามีการอ้างอิงจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ หากมี Backlink ประเภทนี้มากๆจะทำให้อันดับเราดีขึ้น

Backlink ควรมีคะแนน DR และ DA ที่สูง

Domain rating หรือ DR และ Domain Authority หรือ DA คือคะแนนที่บอกว่า Backlink เป็นที่นิยมเท่าใด และถ้าเว็บไซต์เรามี คะแนน DR,DA สูงจะช่วยให้อันดับเราดีขึ้นเช่นกัน

สรุป

การทำ SEO เราจะต้องมีสิ่งสำคัญหลัก อยู่ 4 อย่างคือ 1.Website เว็บไซต์ที่ถูกต้องตามหลัก SEO 2. Content คุณภาพ 3. Keyword ที่ถูกต้องและมีคนค้นหาเยอะ 4. Backlinks เพื่อบอก Google ว่าเว็บเรามีเว็บอื่นให้การอ้างอิงและมีคุณภาพนั่นเอง

หากท่านใดสนใจทำ SEO บน WordPress สามารถติดต่อเราได้ที่ ติดต่อเรา หรือหน้าเว็บไซต์ รับทำเว็บไซต์ WordPress ได้เลยครับ

Sponsored
ดิดต่อทำเว็บไซต์ WordPress